เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวสหรัฐถูกปรับเงินกว่า 88,000 ดอลลาร์หรือราว 3.2 ล้านบาท หลังลูกๆ ของเธอเก็บเปลือกหอยที่ชายหาดกลับบ้านจำนวน 72 ตัวโดยไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากหอยเหล่านี้เป็นหอยไม่ใช่หอยธรรมดา แต่เป็น “หอยกาบลายสามเหลี่ยม” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ตามรายงานเผยว่า นางชาร์ลอต รูสส์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ได้พาลูกๆ ของเธอไปเที่ยวหาด Pismo หรือที่รู้จักในชื่อ “เมืองหลวงแห่งหอยของโลก” โดยลูกๆ ได้เก็บเปลือกหอยมา 72 ตัวกลับบ้าน เธอคิดว่ามันเป็นเปลือกหอยธรรมดา
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่กรมประมงและสัตว์ป่าแห่งแคลิฟอร์เนียสังเกตเห็นขณะที่กำลังลาดตระเวน ว่า เด็กๆ กำลังเก็บหอยกาบสามเหลี่ยมเม็กซิกันอย่างผิดกฎหมาย เธอจึงถูกปรับเป็นเงินกว่า 3.2 ล้านบาททันที
ขณะเดียวกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่กรมประมงและสัตว์ป่า อธิบายกับสื่อของสหรัฐว่า หอยกาบชนิดนี้นั้นมีไว้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ โดยหอยกาบที่มีลักษณะเฉพาะนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหาด Pismo ซึ่งทางเราต้องปล่อยให้พวกมันเติบโตถึง 4 นิ้วครึ่ง จึงสามารถวางไข่และออกลูกได้ทุกปี
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่กล่าวเสริมว่า หากพวกมันเป็นปลาดาวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ตายแล้ว หรือเปลือกหอยที่แตกหัก ก็สามารถหยิบขึ้นมาได้อย่างถูกกฎหมาย แต่หากเปลือกหอยทั้งสองด้านไม่เสียหายและแยกออกจากกันได้ยาก พวกมันก็จะเป็นหอยที่มีชีวิต
ล่าสุด จากคำให้การของคุณแม่ท่านนี้ต่อศาลอธิบายไว้ว่า เธอกับลูกๆ ไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับหอยมาก่อน โดยประสบการณ์ทั้งหมดได้สอนลูกๆ ของเธอและบทเรียนราคาแพงของเธอเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านสัตว์ป่า ภายหลังผู้พิพากษาเห็นใจสั่งปรับเงินเหลือ 500 ดอลลาร์หรือราว 19,000 บาท
ทั้งนี้ นางรูสส์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของเธอและลูกๆ เป็นอย่างยิ่ง หวังว่าจะไม่มีใครทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจ พร้อมแนะนำให้ทางเจ้าหน้าที่ ควรเพิ่มสัญญาณเตือนที่สะดุดตาบริเวณชายหาดมากขึ้น