วันที่ 2 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.นครพนม รายงานว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 3 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงท้ายทอยน้องโอ๊กอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ตกรถจักรยานยนต์เสียชีวิต หน้าโรงเรียนสหราษฎร์รังสฤษฏ์ ถนนสายศรีสงคราม-ท่าดอกแก้ว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางจอมศรี อุ่นกลม อายุ 54 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านปากอูน หมู่ 1 ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ช.โอ๊ก เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลังรู้ข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต ตั้งแต่ตี 2 ตนนอนไม่หลับ ร้องไห้ทั้งคืน เพราะคิดถึงลูกชายคนสุดท้องในจำนวน 5 คน ตนร้องจนช็อกแทบไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาอีกแล้ว

แม่เศร้าสูญเสียลูกชาย

นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต ตนรู้สึกผิดปกติ ในช่วงค่ำลูกชายได้ทำกับข้าวเป็นข้าวจี่มาให้กิน และยังพูดครั้งสุดท้ายคล้ายเป็นลางสังหรณ์ ถามตนว่าอยากกินเหล้าหรือไม่ ก่อนนำเงิน 40 บาทที่ได้มาจากการไปเก็บเห็ดระโงกกับพ่อในป่าและไปขายตามบ้านเรือน เอามาให้ตนไว้ซื้อเหล้าขาวกินประทังความปวดจากขาซ้ายพิการ หลังตนลื่นล้มในห้องน้ำเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้เดินไม่ได้และป่วยติดเตียง จึงลาออกจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ลูกชายคนนี้จะมานอนข้างตนทุกวัน และคอยหุงอาหารให้กินในช่วงป่วยพิการมาตลอด ครอบครัวตนก็มีฐานะยากจน วันหยุดลูกชายก็จะไปรับจ้างล้างจานตามร้านอาหารใกล้บ้านและออกไปเก็บขี้ยาง เพื่อเก็บเงินไปโรงเรียน และเก็บสะสมจนสามารถซื้อโทรศัพท์มือถือได้

นางจอมศรี กล่าวอีกว่า อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว เพราะลูกชายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับแก๊งวัยรุ่นกลุ่มนี้ คนร้ายอาจจะยิงผิดตัวหรือไม่ สำหรับร่างของลูกชายถูกนำส่งไปชันสูตรที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น จะเดินทางมาถึงประมาณเที่ยงคืนนี้ และจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีสมบูรณ์ บ้านปากอูน ม.1 ทันทีที่ศพลูกมาถึง ตนก็จะได้ดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย

ป้าร้องไห้สงสารหลาน

ด้านนางสมพิศ นันท์ศรีบุตร อายุ 56 ปี ป้าของ ด.ช.โอ๊ก ร้องไห้สะอึกสะอื้น กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากได้ชีวิตหลานตนคืนมา เพราะอุ้มเลี้ยงมาแต่ยังแบเบาะ หลานไปรับจ้างเก็บขี้ยางและตระเวนล้างถ้วยจาน ได้เงินมา 10-20 บาท ก็จะซื้อขนมและน้ำหวานมาให้แม่ ไม่มีแม้รถจักรยาน ชีวิตหลานน่าเวทนาและน่าสงสารมาก ไม่น่ามาจบชีวิตจากแก๊งวัยรุ่นเถื่อนพวกนี้เลย