เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 มิ.ย.67 ศูนย์สั่งการกู้ชีพปราการ ได้รับแจ้งสายด่วน 1669 จากพระสงฆ์ของวัดศรีวารีน้อย จ.สมุทรปราการ ว่ามีสามเณรรูปหนึ่งก่อเหตุผูกคอตัวเอง และหมดสติหยุดการหายใจ โดยพระสงฆ์กำลังช่วยกันทำซีพีอาร์เพื่อฟื้นคืนชีพให้กับสามเณร กู้ชีพปราการจึงสั่งการให้รถโรงพยาบาลบางเสาธง พร้อมกับอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊งไปตรวจสอบและเร่งให้ความช่วยเหลือ
พอไปถึงก็พบว่าพระรูปหนึ่งได้ช่วยชีวิตด้วยการทำซีพีอาร์จนกลับมามีชีพจรอีกครั้ง และเคลื่อนย้ายมาส่งต่อให้กับทีมกู้ชีพโรงพยาบาลบางเสาธง เพื่อส่งตัวให้แพทย์รักษายื้อชีวิต เหตุเกิดที่ด้านหลังวัดติดริมคลอง ของวัดศรีวารีน้อย ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือเบื้องต้นและประสานปลายทางให้เตรียมเครื่องมือแพทย์รอรับ
จากการสอบถาม พระฐาดนัย หรือพระต้น พระหนุ่มที่ช่วยชีวิตสามเณร ระบุว่า ขณะที่กำลังจะสวดมนต์อยู่ในกุฎิ มีสามเณรกุฎิข้างๆ มาเรียกบอกว่าให้ไปช่วยสามเณรที่ผูกคอตัวเองกับโดมหลังคาใต้ต้นโพธิ์ริมคลองท้ายวัด จึงรีบวิ่งไปดู พอไปถึงก็พบว่าผูกจริง จึงแกะเชือกลงมาแล้วพบว่าหมดสติไม่มีชีพจร จึงรีบแจ้งขอรถพยาบาลจากศูนย์สั่งการ จากนั้นอาตมาก็ปั๊มหัวใจทันที ใช้เวลาราว 15 นาที จนสามเณรกลับมามีชีพจรอีกครั้ง
ส่วนสามเณรรูปนี้ พักอยู่กับสามเณรรุ่นน้องรวมทั้งหมด 3 รูป ปกติแล้วจะไม่ค่อยเห็นสามเณรรายนี้สุงสิงกับใคร เป็นคนไม่ค่อยพูด และไม่เคยบ่นหรือระบายอะไรให้ใครฟัง กระทั่งมาพบว่าก่อเหตุดังกล่าว
ขณะที่สามเณรรุ่นน้องที่พักอยู่ด้วยนั้น บอกว่าก่อนจะเกิดเหตุก็ยังนั่งเล่นกันอยู่ที่หน้ากุฎิ แล้วไม่นานก็บอกเพียงแค่ว่าเดี๋ยวมานะ จนมีคนไปพบว่าผูกคอ ที่ผ่านมาไม่เคยบอกอะไร แถมยังมีจิตใจดี ขอเล่นอะไรก็จะให้หมด แต่เคยบ่นว่าอยากสึก แต่โยมแม่ขอให้อดทนอยู่ต่อก่อน เพราะเท่าที่ทราบสามเณรรูปนี้อยู่ในระหว่างการบำบัดรักษา เพราะเคยติดยาเสพติด จนแม่พาไปรักษาตัว และพอออกจากโรงพยาบาลจึงพามาบวชสามเณร
ส่วนพระฐาดนัย พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพและอาสาสมัครของกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งผ่านการอบรมในระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินมาอย่างดี จึงมีความรู้ความสามารถในการช่วยชีวิตเบื้องต้น