9 พ.ค. 67 – จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กชื่อว่า กุ๊ก จตุพรรณ ไลฟ์สดชุดสาวอวบอ้วน ได้โพสต์ข้อความว่า “ ขอความเห็นใจ ท่านที่มาซื้อข้าวเหนียวหมูฝอย 10 ห่อ ถ้าท่านอยู่ในกลุ่มนี้เห็นโพสต์ช่วยมากดโอนเงินจ่ายด้วยค่ะ มาซื้อช่วงตี 5 บอกทำงานอยู่มูลนิธิกู้ภัยคุยวอกันสั่งข้าวไป 10 ห่อ โชว์สลีปให้ดู
เราผิดเองที่ดูแค่ยอด 250 บาท ไม่ได้ดูชื่อและเวลา เงินไม่เข้า บ.ช เราเงินอาจจะดูไม่มาก แต่สำหรับแม่ค้าแบบเราเศรษฐกิจแบบนี้เห็นใจกันเถอะค่ะ ไม่ด้วยจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามหรืออาจจะลืมกดยืนยันมั้ย ถ้าท่านที่ทำงานที่เดียวกันได้กินข้าวเหนียวหมูฝอยช่วงตี5ช่วยบอกให้เค้ากลับมาโอนคืนเราทีนะคะพานทอง”
โดยมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และคอมเมนต์จำนวนมาก มีทั้งแบบรอฟังทั้งสองฝ่ายและมีทั้งแบบวิจารณ์หนุ่มกู้ภัยหาว่า เอาสลิปปลอมมาแสดง โดยในคอมเมนต์จะเห็นเจ้าของโพสต์ ได้คอมเมนต์ ว่า ผิดที่ตัวเองไม่ดูชื่อนามสกุล ดูแต่ยอด ขาดความรอบคอบอีกทั้งยังกล่าวอ้างว่า เป็นชื่อใครก็ไม่รู้
จนสุดท้ายหนุ่มกู้ภัยผู้ที่ถูกกล่าวหาได้นำสลิปเข้ามาคอมเมนต์ และมีการให้เจ้าของร้านนำบุ๊กแบงค์ไปตรวจเช็กสเตทเมนต์ ก็พบว่า มีการโอนเข้าในบัญชีจริง แต่เพียงระบบขัดข้อง จึงทำให้ยอดเงินที่โอนไปไม่แจ้งเตือน และสาวเจ้าของโพสต์คนดังกล่าวได้ลบโพสต์หนีหาย สร้างความมึนงงให้กับชาวเน็ตที่เข้ามาคอมเมนต์ และกำลังอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ซึ่งต่อมาได้มีเพจ Facebook ชื่อว่า หน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถาน อ. พานทอง จ. ชลบุรี ได้ออกมาชี้แจงและโพสต์ข้อความว่า “#กรุณาอ่านให้จบและดูภาพประกอบแล้วคุณจะเข้าใจ”
ขอชี้แจงในกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความในเพจฅนอำเภอพานทองลักษณะต่อว่า อาสากู้ภัย ไปซื้อของแล้วเงินไม่เข้าบัญชีร้านค้า ซึ่งทางเราได้เรียกอาสาคนดังกล่าวมาสอบสวนได้ความว่า เมื่อเวลาตี 3 ได้มีเหตุ และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
หลังจากปฏิบัติงานเสร็จเวลาประมาณ 04.45 น. ได้มีชาวบ้านขี่รถผ่านหน้าที่ศูนย์กู้ภัยและได้เห็นว่าเช้านี้อาสาอยู่กันหลายคนจึงได้เข้ามาสอบถามข้อมูลหลังจากนั้นได้ชวนน้องอาสาขี่รถไปซื้อข้าวเหนียวหมูห่อ (ฝั่งตรงข้ามร้านกินตำ ยำปู) เพื่อเป็นการเลี้ยงอาหารเช้าให้กู้ภัย โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดที่อยู่หน้าร้าน เพื่อจ่ายเงินตามปกติ
ซึ่งหลังจากนั้นช่วงสายๆ ร้านค้าได้โพสต์ในเพจดัง ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้สอบถามไปยังอาสาคนที่ไปซื้อของกับชาวบ้านคนดังกล่าว ว่าที่โพสต์นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และได้ติดต่อไปหาชาวบ้านคนดังกล่าวพร้อมกับขอหลักฐานการโอนเงินและสเตรทเมนต์การทำรายการ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
ต่อมาทางอาสาเราจึงติดต่อพูดคุย และได้ทราบถึงสาเหตุแล้วว่า เกิดจากระบบของธนาคาร ซึ่งทางร้านค้าแจ้งว่า จะแสดงความรับผิดชอบ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีท่าทีที่ทางร้านค้านั้นจะแสดงความรับผิดชอบตามที่คุยกับอาสากู้ภัยเเม้แต่น้อย
ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ทางกู้ภัยเสื่อมเสียชื่อเสียง จากการที่ร้านค้าโพสต์ และคนที่เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่ทางร้านโพสต์ไปนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่โพสต์แม้แต่น้อย #คิวอาร์โค้ดหน้าร้านคุณ_ชื่อก็ชื่อคุณ แต่คุณบอกว่าไม่ใช่บัญชีคุณ #อาสากู้ภัยก็มีหัวใจ_ไม่คิดจะโกงใคร #กราบขอบคุณทุกท่านที่อ่านและเข้าใจ
จนมีกระแสดราม่าเกิดขึ้น ระหว่างแม่ค้า ที่โพสต์ตามหาลูกค้าที่เป็นกู้ภัย มาซื้อข้าวเหนียวหมูจนถูกกล่าวหาว่า เป็นมิจฉาชีพ นำสลิปปลอมมาแอบอ้างจ่ายค่าข้าวเหนียวหมู 250 บาท และมีการแชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง มูลนิธิหน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถาน อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับ นายศิรวัฒน์ แสนหล้าอายุ 20 ปี อาสากู้ภัย ที่ไปซื้อของที่เป็นข้าวเหนียวหมูจำนวน 250 บาทและได้โชว์หลักฐานสลิปการโอนเงินให้กับผู้สื่อข่าวดู ซึ่งยอดเงินจำนวน 250 บาท ได้เข้าบัญชีของน้องสาวจตุพรรณ เชื้ออินทร์ ของเมื่อเวลา 04.50 น. เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายศิรวัฒน์ ได้เล่าว่า เมื่อเช้าตอนได้ไปซื้อข้าวเหนียวหมูจำนวน 10 ห่อเป็นเงิน 250 บาทจึงขอจ่ายแบบโอนทางแม่ค้าก็ให้สแกน QR Code ที่ติดอยู่หน้าร้านและแม่ค้าเป็นคนให้สแกนเองพอตอนสแกนเสร็จก็เอาชื่อให้แม่ค้าดู ทางแม่ค้าก็ยืนยันว่า เป็นชื่อของเขาตน จึงกดตกลงและยอดเงินก็ได้ออกจากบัญชีของตนไปเป็นจำนวนเงิน 250 บาท ตนก็ได้โชว์สลิปให้กับแม่ค้าดูก่อนจะนำข้าวเหนียวหมูกลับมากินกันกับเพื่อนกู้ภัย ที่อยู่ในมูลนิธิ
จากนั้นพอช่วงสายได้มีแม่ค้าข้าวเหนียวหมูนำเรื่องราวมาโพสต์ออกตามหาตนและกล่าวว่า ทำงานอยู่มูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ ซึ่งทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดหาว่า ตนเอาสลิปปลอมไปหลอกกินฟรีเมื่อต้นเข้ามาคอมเมนต์ นำสลิปมายืนยัน ทางแม่ค้าก็หาว่า เป็นสลิปปลอม จนชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ทำให้ตนเสียหาย
จากนั้นพอเจ้าของร้านได้นำหลักฐานไปเช็กกับธนาคารก็ทราบว่า มียอดเงินเข้าแต่ระบบขัดข้องทางแม่ค้าก็ได้ลบโพสต์ไปและไม่ได้ชี้แจงอะไรต่อ จึงทำให้ชาวบ้านเข้าใจตนและหน่วยกู้ภัยไปในทางที่ผิด
ตนแค่อยากให้ออกมารับผิดชอบและขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะทำให้ตนเสียหาย และหน่วยงานด้วย ตนก็ให้โอกาสออกมาโพสต์ชี้แจงและขอโทษ แต่กลับเงียบหายไปเลย หากไม่ออกมาโพสต์ชี้แจงและขอโทษ ตนจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง และหน่วยงานได้รับผลกระทบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้