ยื่นฟ้อง 2 คนใกล้ชิดหนึ่งในนั้นคือ จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยา ยักยอกเงินบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัวกว่า 66 ล้าน ยันมีหลักฐาน-ดำเนินคดีถึงที่สุด ล่าสุดหนุ่ม กะลา ควงทนายเดชา ออกมาไลฟ์ฝากถึงภรรยา “ผมไม่ได้อยากจะเอาเงิน 66 ล้านคืน แต่สิ่งที่ผมต้องการ คือ ปิดหนี้ให้หน่อย และก็ขอ 5 ล้านแล้วเราจบกัน”
ซึ่งสรุปจากไลฟ์ได้ตามนี้
จริงๆผมไม่ได้อยากให้มันเป็นข่าวเลย จะเห็นว่าตั้งแต่มีข่าวมือที่สาม ผมออกมาพูดแค่รอบเดียวในรายการโหนกระแส ที่ผมไม่ออกมาพูดเพราะกลัวกระทบกับลูก
ทีนี่มันก็มีข่าวว่าผมจะบวชแล้วจะหนีไปอยู่กับเมียน้อย นี้เลยเป็นเจตนาที่ผมออกมาพูดในครั้งนี้ ถ้านับตั้งแต่ผมเป็นศิลปินเดี่ยวผมไม่ได้มีข้อสงสัยอะไรเลยเกี่ยวกับการเงิน เพราะว่าเราเป็นสามีภรรยากัน ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือไปหาเงินกลับมา เขาให้เงินเดือนผมเพียงแค่เดือนละ 40,000 บาทเองครับ แล้วผมก็สงสัยว่าเงินไปไหนหมด พอเชคสเตทเมน มันมีแต่โอนไปชื่อเพ็ญชุลี
ผมเคยพูดกับจูนว่า ” ทำไมบ้านเราไม่มีเงินสัก 10 ล้านสักทีอ่ะ” ผมเป็นนักร้องที่น้อยเนื้อต่ำใจมาตลอด ทุกครั้งที่ไปแบงค์กันผมจะเป็นกรรมการที่จะเซนต์เพื่อที่จะเบิกเงิน ผมเป็นคนเดียวที่จะเซ็นอนุมัติเบิกเงินได้ แล้วทำไมเงินถึงโอนไปที่เพ็ญชุลี
ถ้าตีไปผมได้เงินเดือนละ 2 ล้าน ผ่านไปสัก 6 เดือนผมกลับมาเชค ถ้าฟุ่มเฟื่อยๆจริงผมว่า มันอย่างน้อยต้องเหลือ แต่มันไม่เหลือ เพราะเขาบอกว่ามันมีค่าใช้จ่าย และมันไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่เป็นประเด็นข่าวมือที่สามนะครับ มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเป็นวงกะลาด้วยซ้ำ
ผมเป็นหนี้ตอนนี้ 10 -20 กว่าล้าน ถ้าบริหารเงินผมได้จริง ผมเป็นนักร้องมา 20 ปี ทำไมผมถึงเป็นหนี้ 20 ล้าน ตอนแรกผมได้ เงินเดือน 20,000 และก็ขยับมาเรื่อยๆเป็น 40,000 พอผมแยกบ้าน ผมอยู่ด้วยเงิน 40,000 ไม่ได้ ก็เลยขอเพิ่มเป็น 100,000 บาท ผมไม่คิดว่า คนๆนึงจากใจร้ายที่เลิกกันไปแล้ว ตัวเองเก็บทรัพย์สินทุกอย่างไว้หมดแล้วทิ้งหนี้ไว้ให้ผมขนาดนี้
ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้มันบานปลายก็ขอให้ปิดหนี้ให้หน่อย แล้วก็จบกันไป เงินที่ยักยอกไปไม่ใช่เงินสินสมรส แต่เป็นการยักยอกห้างหุ้นส่วนจำกัด คนที่จะเซ็นเบิกเงินออกไปได้ต้องเป็นผมเท่านั้น ซึ่งก็แปลกใจที่เงินโอนเข้าไปที่เพ็ญชุลี ซึ่งเพื่อนๆก็ให้คำปรึกษาบอกว่า เขาอาจจะใช้แอปหรือเปล่า ถ้าได้รับรู้ว่าเงิน 66 ล้านมันไปอยู่ตรงไหน เราจะได้เคลียร์กัน และจะได้ตกลงหย่ากัน และต้องลงเรื่องลูก
>