วานนี้ (11 ก.ย. 2567) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC ให้สัมภาษณ์กับอีจัน ว่า น้ำที่ไหลท่วม จ.เชียงราย มาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ซึ่งเราเตือนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.67 ว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำเติมนี้
โดยจากข้อมูลปริมาณฝนรายวัน มากกว่า 200 มม. ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงในรอบกว่า 100 ปี แต่ด้วยความไม่พร้อมของหน่วยงานส่วนกลางในการประเมินความรุนแรงทำให้หน่วยงานท้องถิ่นไม่มีข้อมูลที่จะแจ้งเตือน ในรายละเอียดเชิงพื้นที่ และทำให้ไม่มีความพร้อมที่จะจัดการได้
ดร.เสรี กล่าวต่อว่า ปริมาณน้ำ จาก จ.เชียงราย จากนี้จะไหลลงแม่น้ำโขงทั้งหมด ซึ่งคาดว่าน้ำจะแห้งได้ภายใน 10 วัน ถ้าไม่มีพายุลูกใหม่ตามมา จากนั้นก็จะเข้าสู่การฟื้นฟูพื้นที่ ส่วนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ก็เป็นรอยต่อกับ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ จ.เชียงราย ปริมาณน้ำที่ท่วมจะไหลไปที่พม่า ไม่ส่งผลกระทบไทย ยกเว้นการตกหนักที่พะเยา และแพร่ ซึ่งจะลงแม่น้ำยม ส่งผลกับพื้นที่ภาคกลาง ส่วนที่เชียงใหม่ และน่าน ก็มีเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ยังมีพื้นที่รองรับได้
ตอนนี้ภาคเหนือเกิดฝนตกหนักขึ้นแล้วและเกิดน้ำท่วมแล้ว เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นได้อีก อย่าวางใจ เนื่องจากประเทศไทยแล้งมา 2 ปีแล้ว ประกอบกับความชื้นในอากาศเยอะ อาจทำให้เกิด Rain bomb คือ ฝนที่ตกหนักตกแรงแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีโอกาสเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดร.เสรี บอกว่า โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมเหมือนในปี 2554 มีน้อยกว่า 10% แต่อย่าวางใจ ต้องเตรียมพร้อม เพราะเหตุการณ์ฝนตกหนักที่ จ.เชียงราย ก็มีโอกาสเกิดเพียง 1% แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมีคนที่อยู่ในพื้นที่บอกว่าพึ่งเคยเห็นครั้งแรกที่น้ำสูงขนาดนี้ ถามคนอายุ 50-60 ปีก็ไม่มีใครเคยเห็นที่น้ำสูงจนออกมาที่หน้าด่านพรมแดน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน