เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 24 มิ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเหตุเด็กนักเรียนชายพลัดตกลงมาจากอาคารเรียน ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชื่อดังของจังหวัด จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าอาคาร 9 ชั้น พบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้กันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นนักเรียนชั้น ม.6 จากการตรวจสอบพบกระเป๋านักเรียนของผู้ตายถูกวางทิ้งไว้อยู่บริเวณชั้น 8 ของอาคารดังกล่าว
สลด นักเรียน ม.6 พลัดตกอาคารเรียน 9 ชั้น เสียชีวิตคาที่ ครอบครัวร่ำไห้ดูศพ ทำใจไม่ได้ เผย เมื่อ 2 ปีก่อน เคยมีเด็กนักเรียน ม.3 ร่วงตึกเสียชีวิตมาแล้ว
เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายได้พลัดตกลงมาจากระเบียงของอาคาร ก่อนที่ร่างจะตกลงมากระแทกพื้นด้านล่างเสียชีวิต ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุครอบครัวของผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ซึ่งทุกคนยังอยู่ในอาการทำใจไม่ได้ ร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุของการที่เด็กพลัดตกลงมาจากอาคารเสียชีวิตในครั้งนี้ แต่คาดว่าผู้ตายน่าจะมีปัญหาส่วนตัว และอาจจะกระโดดลงมาจากอาคารเรียนเอง เนื่องจากพบหลักฐานกระเป๋านักเรียนถูกวางไว้ริมระเบียงอาคารชั้น 8 ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อสาเหตุอย่างเร่งด่วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้โรงเรียนแห่งนี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์นักเรียนตกอาคารเรียนลงมาเสียชีวิตมาแล้ว โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 นักเรียนชาย ชั้น ม.3 ได้ตกตึกอาคารเรียนเดียวกันนี้จากชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต คาดว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาส่วนตัว
และในปีเดียวกัน โรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชื่อดังของ จ.นครราชสีมา อีก 2 แห่ง ก็เคยเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนตกอาคารเรียนเสียชีวิตมาแล้วเช่นเดียวกัน โดยหลังเกิดเหตุการณ์ทางสถานศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัด ได้มีการวางมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
โดยได้สำรวจจุดอับ จุดเสี่ยงตามอาคารเรียนต่าง ๆ และกวดขันพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุ พร้อมทั้งได้ประสานนักจิตวิทยาให้เข้าไปอบรมให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษา และเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
โดยจะให้ครูที่ปรึกษาและครูประจำชั้นช่วยคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า เพื่อให้เข้ามาเข้ารับการปรึกษากับนักจิตวิทยา แต่แล้วก็ยังเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ซ้ำขึ้นอีก