ครอบครัวเหยื่ออเมริกันบูลลี่ ทำใจไม่ได้ สูญเสียน้องชาย เพราะสุนัขที่เลี้ยงไว้ ยอมรับเป็นความผิดพลาดปล่อยให้ผู้ที่มีความรู้ มีความรักเอาไปเลี้ยงดูต่อไม่อยากเห็นให้สะเทือนใจ
จากกรณี สุนัขพันธุ์ อเมริกันบูลลี่ กัดคนในครอบครัวจนเสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นน้องชายของเจ้าของสุนัข ทำให้ครอบครัวอยู่ในอาการสะเทือนใจอย่างยิ่ง
เมื่อเวลา 09.30 น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุ พบ ทั้งพ่อและแม่ พี่ชายผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ใน ความโศกเศร้าเสียใจ และยังทำใจไม่ได้และไม่ขอตอบคำถามกับสื่อมวลชน โดยให้ นายอภิสิทธิ์ หรือโอ๊ต จันทร์สกุณี เจ้าของอเมริกันบูลลี่เป็นผู้ตอบแทน
นายอภิสิทธิ์ พี่ชาย ก็ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจไม่แพ้กันกล่าวว่า American bully 2 ตัวนี้ชื่อฟีโน่ กับเซสร่า เป็นเพศผู้ อายุ 1 ปีครึ่ง น้ำหนักประมาณ 18-20 กิโลกรัม ตนเองเป็นคนทำคลอดมากับมือโดยแม่พันธุ์ชื่อถังแก๊ส อายุ 4 ปี พ่อได้เป็นคนซื้อมาเลี้ยง และตนเองเอาไปผสมพันธุ์จนเกิดฟีโน่ กับเซสร่า ขึ้นมา
ก่อนนั้นตนเองได้เลี้ยงดูอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เนื่องจากต้องกลับมาดูแม่ซึ่งอายุมากและป่วยบ่อย จึงได้นำอเมริกันบูลลี่ 2 ตัวนี้มาเลี้ยงไว้ที่บ้าน รวมกับแม่ของมันเองด้วย ซึ่งช่วงที่นำมา ก็ยังไม่คุ้นกับใครสักเท่าไร
โดยมีหมาเจ้าตาล หมาพันธุ์ไทยเพศผู้สีขาว จำนวน 1 ตัว ที่ทางครอบครัว เลี้ยงอยู่ ซึ่งก็ยังไม่คุ้นกับเจ้าตาลจึงได้นำไปเลี้ยงไว้บนห้องนอนของตนเอง โดยมีน้องชาย คอยให้อาหาร และเริ่มคุ้นเคยกัน เล่นกัน หยอกล้อกันตั้งแต่นั้นมา
นายอภิสิทธิ์ เล่าต่อว่า ช่วงที่เกิดเหตุ พ่อไปทำงานแม่ไปหาหมอ ตนเองเข้าเวรดึก ไม่ได้กลับบ้านเย็นเช่นทุกวัน โดยปล่อย อเมริกันบูลลี่ทั้ง 3 ตัวไว้กับน้อง ซึ่งคาดว่า ฟีโน่ กับเซสร่า เกิดความเครียด ที่ตนเองไม่ได้กลับมาบ้านตามปกติช่วงเย็นเช่นทุกวัน และเป็นไปได้ว่า น้องชายคงเล่นกับ American bully ไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกวิธี รวมถึงความเครียดสะสมที่ไม่ได้เจอตนเอง จึงได้เกิดความก้าวร้าวขึ้น เริ่มกัดพอได้กลิ่นเลือด ก็มุทะลุจนห้ามไม่ฟัง
ล่าสุดถังแก๊สซึ่งเป็นแม่อเมริกันบูลลี่ทั้งตัวซึ่งได้รับบาดเจ็บ ที่ขา ซึ่งตนคิดว่าเป็นเพราะแม่ของอเมริกันบูลลี่ เข้าช่วยน้องชายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทน แรง ของลูกทั้งตัวไม่ได้ จนล่าถอย ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าว
ซึ่งในเหตุการณ์นี้ ครอบครัว พ่อแม่ตนเองรู้สึกเสียใจ เป็นอย่างมาก ที่ต้องสูญเสีย บุคคลอันเป็นสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยตนเอง จะไม่เลี้ยง American bully ทั้ง 3 ตัวแล้วทั้งที่แสนรัก เนื่องจากอาจจะทำใจไม่ได้ หากเห็น อเมริกันบูลลี่ทั้ง 3 ตัวนี้ โดยขณะนี้มีผู้ติดต่อขอรับไปเลี้ยงแล้วจำนวนหลายรายรวมถึงเจ้าหน้าที่ Watch Dogs ก็ได้โทรมาถามความคืบหน้าด้วยความเป็นห่วง โดยจะเลือกให้สำหรับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงอเมริกันบูลลี่เท่านั้น
ซึ่งขณะนี้ ร่างของผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่สถาบันนิติเวช โดยทางญาติได้จัดเตรียมรอรับร่างที่วัด หลวงท้ายตลาด อำเภอเมือง ลพบุรี รวมถึงผลของการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดเกี่ยวกับบาดแผลที่กัด