วันที่ 5 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่ง มาปรึกษาปัญหากฎหมายว่า ก่อนมาบวชเป็นพระ มีลูกเมียมาก่อน แต่ฐานะยากจน และมีหนี้สินล้นพ้นตัว กลัวลูกเมียลำบาก เลยทิ้งลูกเมียมาบวช ได้ 9 ปี ระหว่างบวช ผ่านไปได้ 4 ปี เมียมีสามีใหม่
ต่อมาสามีใหม่ของเมีย และเมีย ทำธุรกิจมีฐานะดีขึ้น เรียกว่าร่ำรวยเลยก็ว่าได้ พระก็เลยคิดจะสึก เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตกับเมียอีกครั้ง (ถามเหตุผลว่าทำไม ท่านตอบว่า ทำเพื่อลูก และไม่มีหนี้สินแล้ว)
แต่เมื่อไปหารือเมีย กลับถูกเมียปฏิเสธ และถูกผัวใหม่ของเมียด่าว่าอย่างเสียหาย
อยากให้ทนายฟ้องชู้เรียกค่าทดแทน และฟ้องหมิ่นประมาท เรียกค่าสินไหม และค่าทดแทน 1,000,000 บาท ฟ้องหย่าเมีย และแบ่งสินสมรส มูลค่าประมาณ 7,000,000 บาท ให้พระด้วย
ไม่รู้จะตอบพระยังไง กลัวตอบไปจะบาป
ต่อมา ทนายเกิดผล แก้วเกิด ระบุเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่พระรูปนี้หนีไปบวช เพราะทนเห็นลูกเมียลำบากไม่ได้ และถ้าอยู่ไปกลัวข้าวปลาอาหาร ไม่พอให้ลูกเมียกิน (แกอธิบายว่า ถ้ามีข้าวสาร สำหรับกินได้ 3 คน จะกินได้แค่ 2 วัน แต่ถ้าแกไปบวช จะเหลือคน แค่ 2 คน กินได้ อย่างน้อย 6 วัน พะนะ) การไปบวชของแก เป็นการทำเพื่อลูกเมียทั้งนั้น เหตุผลฟังขึ้นไหมครับ
หลังจากนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมกับคำแนะนำ อาทิ เป็นอีกเคสนึงที่ยืนยันได้ว่า ผัวที่ดีคือผัวใหม่ค่ะ , บวชต่อไปท่าน เดี๋ยวเค้าล้มอีกท่านจะเสียเวลามาบวชใหม่เอานะ